จิม เฮ็นสัน (Jim Henson) เกิดเมื่อวันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 1936 ที่กรีนวิล มลรัฐมิสซิสซิปปี้ สหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ จิม เฮ็นสัน (Jim Henson) มีความชื่นชอบหุ่นกระบอกตั้งแต่ในวัยเด็ก โดยแรงบันดาลใจของเขาเริ่มขึ้นหลังจากที่บ้านมีโทรทัศน์เครื่องแรก ทำให้เขาได้รับอิทธิพลสำคัญจากการได้ชมการแสดงหุ่นกระบอกทางรายการโทรทัศน์ของเบอร์ ทิลสตรอม และการแสดงหุ่นของ เอ็ดการ์ เบอร์เกน ซึ่งเบอร์แกนเป็นนักเชิดหุ่นและพากย์เสียงได้อย่างยอดเยี่ยม โดย จิม เฮ็นสัน สามารถบังคับคำพูดให้ก้องออกมาจากท้องของตัวเอง และสามารถลวงให้คนดูคิดว่าหุ่นพูดได้อย่างแยบยล
ต่อมาในปี 1954 จิม เฮ็นสัน (Jim Henson) ได้เข้าศึกษาในนอร์ธเวสเทิน ไฮสคูล จากความชื่นชอบ ทำให้เขาได้เริ่มทำงานให้กับ WTOP-TV แสดงหุ่นกระบอกโชว์สำหรับเด็กในรายการ The Junior Morning Show และในช่วงชีวิตมหาวิทยาลัยก็เช่นกัน เขาได้ริเริ่มสร้างตัวละครเอง ซึ่งก็คือ "แซมและผองเพื่อน" ในการแสดงหุ่นโชว์ 5 นาที ทางรายการโทรทัศน์ WRC-TV ซึ่งตัวละครเหล่านี้ก็จะกลายเป็นตัวละครมัพเพ็ทส์ที่โด่งดังของเขาในอนาคต อย่างเช่น กบเคอร์มิท
อย่างไรก็ตาม ต่อมา จิม เฮ็นสัน (Jim Henson) ก็เริ่มอยากให้ผู้ชมเชื่อว่าหุ่นในรายการโทรทัศน์ของเขา "มีชีวิตและมีอารมณ์ความรู้สึก" ด้วยเช่นกัน เขาจึงเริ่มทดลองเปลี่ยนแนวทางการแสดงหุ่นเชิดทางรายการโทรทัศน์ โดยนำหุ่นมืออย่างที่เรียกว่า Puppet มาดัดแปลงผสมผสานกับหุ่นเชิดแบบ Marionette จนได้เป็นมัพเพ็ทส์ (Muppets) หุ่นลูกครึ่งที่สามารถแสดงสีหน้าท่าทางได้สมจริง มีชีวิตชีวา และตีบทแตกได้ไม่แพ้ดาราเป็น ๆ เลยทีเดียว
โดย จิม เฮ็นสัน (Jim Henson) ได้ปรับเทคนิคการถ่ายทำซึ่งจะทำให้หุ่นสามารถขยับได้โดยไม่เห็นว่ามีผู้เชิดอยู่ด้วย, เปลี่ยนวัสดุในการทำหุ่น โดยใช้โฟมยางแทนการใช้ไม้ เพื่อช่วยให้หุ่นมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นและทำให้มันสามารถแสดงท่าทางและอารมณ์ได้ดีกว่าหุ่นแบบเดิม, และที่สำคัญเขาต้องการให้หุ่นของเขา "พูดได้" ดังนั้นเขาจึงทำให้ปากของหุ่นขยับได้ตามบทสนทนาด้วยเช่นกัน ซึ่งตัวละครที่โด่งดังของเขาก็มีมากมาย เช่น กบเคอร์มิท, มิสพิกกี้, ฟอซซีแบร์, สคูเตอร์ และกอนโซ เป็นต้น
ซึ่งหุ่นมือมัพเพ็ทส์ของ จิม เฮ็นสัน (Jim Henson) ได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างประชากรหุ่นของเขาซึ่งมีบุคลิกหลากหลายพิสดาร ตั้งแต่กบ กุ้ง ปลาดุก ไปจนภารโรง รวมถึงการแสดงที่ชวนขบขันและสนุกสนาน จึงเป็นที่ถูกอกถูกใจของเด็กและผู้ใหญ่ทั่วบ้านทั่วเมือง ทั้งนี้ หุ่นของเฮ็นสันได้แสดงในรายการโทรทัศน์ เช่น The Muppet Show และ Sesame Street และมีการสร้างเป็นภาพยนตร์อีกหลายครั้ง ได้แก่ The Muppet Movie (1979), The Great Muppet Caper (1981), The Muppets Take Manhattan (1984), The Muppet Christmas Carol (1993), Muppet Treasure Island (1996), Muppets from Space (1999) และ The Muppets' Wizard of Oz (2005)
จากความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างตัวละครหุ่น รวมถึงการผลิตรายการโทรทัศน์ที่ครองใจผู้ชมอย่างท่วมท้น ทำให้ จิม เฮ็นสัน (Jim Henson) ได้รับรางวัลออสการ์สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ยอดเยี่ยม (เอมมี่ อวอร์ด) อีกมากมายหลายรางวัล
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า จิม เฮ็นสัน จะเสียชีวิตไปแล้วด้วยโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรียเมื่อ ค.ศ.1990 แต่ทั้งนี้ก็เชื่อว่าหุ่นของเขายังคงเป็นที่จดจำและอยู่ในใจของแฟน ๆ อย่างไม่รู้ลืม...
ทั้งนี้ จิม เฮ็นสัน (Jim Henson) มีความชื่นชอบหุ่นกระบอกตั้งแต่ในวัยเด็ก โดยแรงบันดาลใจของเขาเริ่มขึ้นหลังจากที่บ้านมีโทรทัศน์เครื่องแรก ทำให้เขาได้รับอิทธิพลสำคัญจากการได้ชมการแสดงหุ่นกระบอกทางรายการโทรทัศน์ของเบอร์ ทิลสตรอม และการแสดงหุ่นของ เอ็ดการ์ เบอร์เกน ซึ่งเบอร์แกนเป็นนักเชิดหุ่นและพากย์เสียงได้อย่างยอดเยี่ยม โดย จิม เฮ็นสัน สามารถบังคับคำพูดให้ก้องออกมาจากท้องของตัวเอง และสามารถลวงให้คนดูคิดว่าหุ่นพูดได้อย่างแยบยล
ต่อมาในปี 1954 จิม เฮ็นสัน (Jim Henson) ได้เข้าศึกษาในนอร์ธเวสเทิน ไฮสคูล จากความชื่นชอบ ทำให้เขาได้เริ่มทำงานให้กับ WTOP-TV แสดงหุ่นกระบอกโชว์สำหรับเด็กในรายการ The Junior Morning Show และในช่วงชีวิตมหาวิทยาลัยก็เช่นกัน เขาได้ริเริ่มสร้างตัวละครเอง ซึ่งก็คือ "แซมและผองเพื่อน" ในการแสดงหุ่นโชว์ 5 นาที ทางรายการโทรทัศน์ WRC-TV ซึ่งตัวละครเหล่านี้ก็จะกลายเป็นตัวละครมัพเพ็ทส์ที่โด่งดังของเขาในอนาคต อย่างเช่น กบเคอร์มิท
อย่างไรก็ตาม ต่อมา จิม เฮ็นสัน (Jim Henson) ก็เริ่มอยากให้ผู้ชมเชื่อว่าหุ่นในรายการโทรทัศน์ของเขา "มีชีวิตและมีอารมณ์ความรู้สึก" ด้วยเช่นกัน เขาจึงเริ่มทดลองเปลี่ยนแนวทางการแสดงหุ่นเชิดทางรายการโทรทัศน์ โดยนำหุ่นมืออย่างที่เรียกว่า Puppet มาดัดแปลงผสมผสานกับหุ่นเชิดแบบ Marionette จนได้เป็นมัพเพ็ทส์ (Muppets) หุ่นลูกครึ่งที่สามารถแสดงสีหน้าท่าทางได้สมจริง มีชีวิตชีวา และตีบทแตกได้ไม่แพ้ดาราเป็น ๆ เลยทีเดียว
โดย จิม เฮ็นสัน (Jim Henson) ได้ปรับเทคนิคการถ่ายทำซึ่งจะทำให้หุ่นสามารถขยับได้โดยไม่เห็นว่ามีผู้เชิดอยู่ด้วย, เปลี่ยนวัสดุในการทำหุ่น โดยใช้โฟมยางแทนการใช้ไม้ เพื่อช่วยให้หุ่นมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นและทำให้มันสามารถแสดงท่าทางและอารมณ์ได้ดีกว่าหุ่นแบบเดิม, และที่สำคัญเขาต้องการให้หุ่นของเขา "พูดได้" ดังนั้นเขาจึงทำให้ปากของหุ่นขยับได้ตามบทสนทนาด้วยเช่นกัน ซึ่งตัวละครที่โด่งดังของเขาก็มีมากมาย เช่น กบเคอร์มิท, มิสพิกกี้, ฟอซซีแบร์, สคูเตอร์ และกอนโซ เป็นต้น
ซึ่งหุ่นมือมัพเพ็ทส์ของ จิม เฮ็นสัน (Jim Henson) ได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างประชากรหุ่นของเขาซึ่งมีบุคลิกหลากหลายพิสดาร ตั้งแต่กบ กุ้ง ปลาดุก ไปจนภารโรง รวมถึงการแสดงที่ชวนขบขันและสนุกสนาน จึงเป็นที่ถูกอกถูกใจของเด็กและผู้ใหญ่ทั่วบ้านทั่วเมือง ทั้งนี้ หุ่นของเฮ็นสันได้แสดงในรายการโทรทัศน์ เช่น The Muppet Show และ Sesame Street และมีการสร้างเป็นภาพยนตร์อีกหลายครั้ง ได้แก่ The Muppet Movie (1979), The Great Muppet Caper (1981), The Muppets Take Manhattan (1984), The Muppet Christmas Carol (1993), Muppet Treasure Island (1996), Muppets from Space (1999) และ The Muppets' Wizard of Oz (2005)
จากความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างตัวละครหุ่น รวมถึงการผลิตรายการโทรทัศน์ที่ครองใจผู้ชมอย่างท่วมท้น ทำให้ จิม เฮ็นสัน (Jim Henson) ได้รับรางวัลออสการ์สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ยอดเยี่ยม (เอมมี่ อวอร์ด) อีกมากมายหลายรางวัล
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า จิม เฮ็นสัน จะเสียชีวิตไปแล้วด้วยโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรียเมื่อ ค.ศ.1990 แต่ทั้งนี้ก็เชื่อว่าหุ่นของเขายังคงเป็นที่จดจำและอยู่ในใจของแฟน ๆ อย่างไม่รู้ลืม...
.
Life Insurance Knowledge:Life Insurance , private, death, employee pensions and annuities,life insurance, educational, life insurance companies
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น