วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

บันทึกการสัมภาษณ์กลุ่มย่อย : กลุ่มนักศึกษา ผู้สร้างหนังสั้น

โครงการวิจัยและพัฒนาเกณฑ์การปรากฏตัวภาพบุหรี่ในสื่อภาพยนตร์

ตามระดับความเหมาะสมของภาพยนตร์

ครั้งที่ ๓/๒๕๕๒ วันอังคารที่ ๘ กันยายน ๒๕๕๒ ห้องเลขาธิการคณะนิเทศศาสตร์ ชั้น ๑ เวลา ๑๐.๐๐- ๑๒.๐๐น.

คณะผู้เข้าร่วมกิจกรรม : คุณ สุรวดี รักดี ผู้ดำเนินการสัมภาษณ์

: คุณอารยา ชินวรโกมล

: คุณปริญญา จันทร์ทองรักษ์


รายชื่อเข้าร่วมกิจกรรม กลุ่มนักศึกษาภาควิชาภาพยนตร์ ม.รังสิต ชั้นปีที่ ๓

๑. ศุภกร ครรสอน โม อายุ ๒๐ ปี

๒. วรภทธ์ มกตวุธ ใหม่ ๒๐ ปี

๓. ขจรศักดิ์ ลีอารีย์กุล โน้ต ๒๐ ปี

๔. พิชย จรัสบุญประชา เสือ ๒๐ ปี

ระบวนการทำกิจกรรมสัมภาษณ์กลุ่มย่อย

ขั้นตอนการชมภาพยนตร์คัดเลือกภาพยนตร์ตามระดับความเหมาะสมโดยเป็นภาพยนตร์ไทย ๓ เรื่อง ภาพยนตร์ระดับความเหมาะสม น.๑๓ คือเรื่อง หมอเจ็บ ภาพยนตร์ระดับความเหมาะสม น.๑๕ คือเรื่อง รักแห่งสยาม ภาพยนตร์ระดับความเหมาะสม น.๑๘ คือเรื่อง เจ็ดประจัญบาน ภาค ๒ และนำภาพยนตร์ต่างประเทศหนึ่งเรื่องมาให้ชม คือ เรื่อง คอนเสตนติน โดยส่งภาพยนตร์ให้แต่ละท่านชมทั้ง ๔ เรื่องข้างต้น ภายใน ๒ สัปดาห์ และนัดหมายวันเพื่อสัมภาษณ์ต่อไป

ขั้นตอนการสัมภาษณ์

· เริ่มต้นจากการแนะนำโครงการและวัตถุประสงค์ของการทำงาน

· ภูมิหลังของเรื่องการสูบบุหรี่

จากน้องๆทั้งสี่คนนั้น มีสามคนที่เป็นคนสูบบุหรี่ ในที่นี้คือสูบมาเป็นระยะเวลามากกว่า ๑ ปีและสูบเป็นประจำ มีเพียงแค่น้องขจรศักดิ์ ที่ไม่ได้เป็นสูบบุหรี่ แต่เล่าว่าเคยทดลองแล้วเมื่อตอนอายุ ๑๓ ปีแล้วทำให้ไม่ชอบมาจนถึงปัจจุบัน โดยน้อง ๆที่สูบบุหรี่ นั้นมีญาติใกล้ชิดเป็นคนสูบ โดยเฉพาะคุณพ่อ และเพื่อนๆก็สูบมาตั้งแต่ระดับมัธยมต้นบ้างแต่ในขณะนั้นแต่ละคนยังไม่สูบกันจะมาเริ่มสูบตอนอยู่มหาวิทยาลัย

น้องเสือ เล่าเหตุผลที่เริ่มสูบบุหรี่ว่า สำหรับตนเองรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่อยากข้ามขีดของตัวเอง อยากโต โดยบุหรี่มันก็แสดงการข้ามขีดบางอย่างโดยไม่ผิดกม. พออายุถึงเกณฑ์ซื้อบุหรี่เองได้ก็ทดลองสูบเป็นครั้ง และจากนั้นมาก็สูบมาโดยตลอดซึ่งคุณพ่อจะเป็นสูบแต่ได้เลิกไปตั้งแต่ตัวเองเด็กๆแต่จำไม่ได้ว่าพ่อเลิกสูบเมื่อไรแน่..แต่จำภาพได้ว่าพ่อเคยเป็นคนสูบบุหรี่

น้องใหม่ บอกถึงเหตุผลที่ตัวเองสูบว่า เพราะว่าเมื่อเครียดจากการเรียน และทำงานในวิชาเรียนแล้วเพื่อนๆรอบตัวสูบ ในขณะนั้นอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว ก็ขอลองแล้วต่อมาก็ติดไปเลย

น้องโม สูบเพราะเพื่อนๆ และตัวเองเป็นคนสูบบุหรี่จัดมาก

· ทัศนคติต่อการสูบของคนในครอบครัว หรือ เพื่อนที่สูบ

น้องๆมองว่าคิดบุหรี่ไม่มีประโยชน์โดยตรง ทั้งต่อร่างกาย ต่อการแสดงบุคคลิกความเป็นตัวตน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกว่าเป็นเรื่องที่ผิดหากสูบในเวลาและสถานที่ๆหมาะสม อาทิ เห็นเด็กเล็กๆก็จะเอาบุหรี่หลบ หรือ เลี่ยงไปทางอื่น แต่ส่วนการปฏิบัติตัวต่อเพื่อนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ ก็จะไม่ได้เชื้อเชิญเพื่อน และก็จะเลี่ยงไปสูบในที่กำหนดไว้ แต่เพื่อนในกลุ่มเดียวกันคนที่ไม่สูบก็จะเข้าใจและเลี่ยงไปเอง

ในจุดนี้น้องโน้ต เล่าด้วยน้ำเสียงประชดประชันว่า “เราเป็นส่วนน้อยพี่ ต้องหนีเอง” เนื่องจากในสาขาที่เรียนนั้นน้องๆเล่าว่า 80 เปอร์เซนต์น่าจะสูบกันหมดโดยสูบแบบเป็นนิสัยด้วย ไม่ใช่สูบเพียงแค่แสดงความเท่ห์เฉยๆ

ความคิดเห็นเรื่อง “ หมอเจ็บ” ระดับความเหมาะสม อายุ น ๑๓

รู้สึกอย่างไรกับการสูบบุหรี่ในฉากนั้นๆ

การที่มีภาพบุหรี่ปรากฎณ์ในเรื่องนี้มีที่มาที่ไปชัดเจน ถึงเนื้อหาที่ผู้กำกับอยากนำเสนอ และก็ไม่ได้รู้สึกจดจำเป็นพิเศษ

เมื่อชมภาพยนตร์จบแล้ว คิดว่าการปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวสามารถยอมรับได้หรือไม่? อย่างไร?

ทุกท่านมองว่า เห็นได้เลยไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะมีการสอนให้เห็นโทษของบุหรี่ด้วย...

เมื่อชมภาพยนตร์จบแล้วคาดว่า เยาวชนจะสูบบุหรี่ตามหรือไม่?

ในภาพยนตร์เป็นการให้ข้อมูลการสูบบุหรี่เป็นเรื่องปกติ แสดงให้เห็นความจริงของสังคมซึ่งน่าจะให้เด็กรับรู้และคิดว่าเด็ก ๑๓ น่าจะเข้าใจแล้ว

ดังนั้นเมื่อพูดถึงเรื่อง รักแห่งสยาม และ เจ็ดประจันบาน น้องๆจึงมองว่าไม่มีปัญหาและยอมรับให้มีการปรากฎตัวได้ โดยรักแห่งสยามนั้นน้องๆมีความเห็นแย้งว่าอยู่ระดับเรตติ้ง ๑๓ เช่นเดียวกับหมอเจ็บ เนื่องจากมีเนื้อหาหลัก ในเรื่องของความรักของคนในครอบครัว ซึ่ง Golden scene ที่ตัวละครเอกจูบกันนั้นเป็นเพียงปรากฎการณ์เปิดเผยเรื่องเพศมากขึ้นก็ไม่ได้ทำให้ theme เรื่องเปลี่ยนไป และเรื่องบุหรี่ในหนังทั้งสองเรื่องมาอย่างสมเหตุสมผล ในขณะที่เจ็ดประจัญบานนั้น เป็นหนังที่แสดงความรุนแรงผ่ายภาพตลกซึ่งบางช่วงบางตอนมากเกินไป อาทิ ฉากตัวเอกทั้ง ๗ รุมกระทืบคนแก่ผู้หญิง น้องๆมองว่ามากเกินไป..สำหรับตัวละครที่สูบบุหรี่เป็นคาแรคเตอร์ ก็ไม่ได้ดูดีน่าทำตามแต่อย่างใด

เมื่อถามน้องๆเรื่อง คอนแสตนติน น้องๆพูดติดตลกว่า หากเรื่องนี้ไม่มีบุหรี่หนังคนเหลือแค่ ๓๐ นาที เพราะมีแต่ฉากสูบบุหรี่ทั้งเรื่อง ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดแล้ว...จะเป็นการสอนคนดูถึงเรื่องโทษของบุหรี่กับพิษร้ายของชีวิตก็ตาม น้องใหม่ให้ทัศนะว่า ในเรื่องนี้เมื่อดูครั้งแนกก็แอบมีความรู้สึกว่าดูเท่ห์เหมือนกันด้วยองค์ประกอบทั้งนักแสดง เสื้อผ้า ฉาก สีสันของเรื่องที่ทำให้ดูน่าสนใจ พร้อมบรรยากาศต่างประเทศมันดูน่าสูบกว่า

แต่มาบ้านเราพออกมาจากโรงหนังแอร์เย็นๆ จะออกมาข้างนอกร้อนๆก็ไม่มีอารมณ์จะสูบแล้ว

ภาพบุหรี่ในระดับความเหมาะสมต่างๆ

ระดับ

รายละเอียด

เงื่อนไข

๑๓

มีได้ ทุกรูปแบบ

· ความถี่และลักษณะภาพให้ดูบริบท เรื่อง หรือ เหตุผลในการนำเสนอภาพบุหรี่

· ตัวละครที่แสดงเหมาะสมกับเนื้อหา ไม่ใช่เยาวชนที่เล็กจนเกินไป

· มีความสมจริง ไม่เชิญชวน

๑๕

มีได้ ทุกรูปแบบ

· ความถี่และลักษณะภาพให้ดูบริบท เรื่อง หรือ เหตุผลในการนำเสนอภาพบุหรี่

· ตัวละครที่แสดงเหมาะสมกับเนื้อหา

· มีความสมจริง ไม่เชิญชวน

· แต่สามารถเข้มข้นได้มากขึ้น

๑๘

มีได้ ทุกรูปแบบ

· ปล่อยได้อิสระ

๒๐

มีได้

น้องๆเล่าให้ฟังถึงหนังที่กำลังพัฒนาอยู่กับเพื่อนๆว่า เป็นภาพยนตร์ความยาว ชั่วโมงครึ่ง เรื่องราวของความรักหนุ่มสาว ที่หญิงสาวเลิกลาไปเพราะไม่ชอบหลายอย่างในตัวฝ่ายชายโดยเฉพาะ เรื่องการสูบบุหรี่ โดยในเรื่องนี้ นักแสดงชายเป็นคนสูบบุหรี่ไม่เป็น และทีมงานก็ไม่จำเป็นต้องบังคับให้นักแสดงหัดสูบ แต่นำเสนอโดยการเล่าเรื่องด้วยภาพให้ดูว่าเป็นคนสูบจัดมากจน แฟนต้องบอกเลิก อาทิ มีการทิ้งบุหรี่แล้วเหยียบทิ้ง หรือเก็บซองใส่กระเป๋า หรือใช้ Dialogue ช่วย เช่น “สูบจัดนะช่วงนี้” แต่ไม่การปรากฎณ์ภาพของ การสูบ ที่ชัดเจน โดยเล่าว่าในเดือนตุลาคมจะเสร็จสมบูรณ์ซึ่งก็จะนำมาฝากทีมงานวิจัยให้ชมกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Search for content in this blog.