Jason Mraz – I’m Yours
Well you done done me and you bet I felt it
คุณทำให้ผมรัก และผมก็รักคุณเข้าอย่างจัง
I tried to be chill but you’re so hot that I melted
ผมพยายามจะเมินเฉยกับคุณ แต่คุณก็มีเสน่ห์จนผมใจละลาย
I fell right through the cracks
ผมรู้สึกเหมือนอยู่ในภาวะจิตเสื่อม
and now I’m trying to get back
และตอนนี้ผมพยายามทำตัวให้เป็นปกติ
Before the cool done run out
ก่อนที่สิ่งดีๆกำลังจะหมดไป
I’ll be giving it my bestest
ผมจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดของผมให้กับคุณ
Nothing’s going to stop me but divine intervention
ไม่มีอะไรที่จะหยุดผมได้ แต่การแทรกแซงของพระเจ้านั้น
I reckon it’s again my turn to win some or learn some
ผมจึงกลับมาคิดอีกที ว่าผมจะต้องรู้จักถึงการชนะบ้าง และเรียนรู้บ้าง
I won’t hesitate no more, no more
ผมจะไม่ลังเลอีกต่อไปแล้ว ไม่ลังเลอีกแล้ว
It cannot wait, I’m yours
ผมไม่สามารถทนรอได้ ผมเป็นของคุณ
* Well open up your mind and see like me
ช่วยเปิดใจของคุณ และมองมาที่ผมหน่อย
Open up your plans and damn you’re free
ช่วยเปิดแผนชีวิตของคุณ และทำลายมันซะ ปล่อยตัวคุณให้เป็นอิสระ
Look into your heart and you’ll find love love love
ลองมองเข้าไปในหัวใจ และคุณก็จะพบแต่คำว่า รัก รัก รัก
Listen to the music of the moment maybe sing with me
ฟังเสียงเพลงในตอนนี้ดูสิ คุณจะร้องเพลงนี้พร้อมผมก็ได้นะ ถ้าเป็นไปได้
A lá peaceful melody (2nd time: A lá one big family; 3rd time: A lá happy family; 4th time: A lá peaceful melody)
บทเพลงแห่งสันติภาพไง (2nd time: บทเพลงของครอบครัวใหญ่; 3rd time: บทเพลงแห่งความสุขของครอบครัว; 4th time: บทเพลงแห่งสันติภาพ)
It’s your God-forsaken right to be loved love loved love loved
เทพเจ้าแห่งความโชคร้ายของคุณ ยังพูดคำว่า รัก รัก รัก รักกัน
** So I won’t hesitate no more, no more
ดังนั้นผมจะไม่ลังเลอีกต่อไปแล้ว ไม่ลังเลอีกแล้ว
It cannot wait I’m sure
ผมไม่สามารถทนรอได้ ผมมั่นใจ
There’s no need to complicate
มันไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อนเลยนะ
Our time is short
เวลาของพวกเราแสนสั้น
This is our fate, I’m yours
สิ่งนี้คือพรมลิขิต ผมเป็นของคุณ
I’ve been spending way too long checking my tongue in the mirror
ผมใช้เวลาไปมากมายกับการสำรวจลิ้นของตัวเองอยู่หน้ากระจก
And bending over backwards just to try to see it clearer
แลบลิ้นเข้าๆออกๆเพื่อดูว่ามันสะอาดแล้ว (จะทำไปทำไม??? อิอิ)
My breath fogged up the glass
ลมหายใจของผมเป็นไอเกาะบนกระจก
And so I drew a new face and laughed
และผมก็วาดรูป
I guess what i’ma saying is there ain’t no better reason
ผมก็เข้าใจนะว่าสิ่งที่ผมพูดออกไปนั้น เหตุผลคงไม่ดีพอ
To rid yourself of vanity and just go with the seasons
ขอให้คุณช่วยสละทิฐิของตัวเองทิ้งไป และก้าวไปในช่วงเวลาของเรา
It’s what we aim to do
ว่าอะไรคือเป้าหมายของเรา
Our name is our virtue
และพวกเราจะจารึกชื่อของเราไว้
*/**/*
No please, don’t hesitate
ได้โปรด อย่าลังเลใจอีกเลย
no more, no more
อย่าเลยนะ อย่าเลย
It cannot wait
ผมรอต่อไปไม่ได้แล้ว
The sky is your’s!
ขนาดท้องฟ้าก็ยังเป็นคุณ
Well you done done me and you bet I felt it
คุณทำให้ผมรัก และผมก็รักคุณเข้าอย่างจัง
I tried to be chill but you’re so hot that I melted
ผมพยายามจะเมินเฉยกับคุณ แต่คุณก็มีเสน่ห์จนผมใจละลาย
I fell right through the cracks
ผมรู้สึกเหมือนอยู่ในภาวะจิตเสื่อม
and now I’m trying to get back
และตอนนี้ผมพยายามทำตัวให้เป็นปกติ
Before the cool done run out
ก่อนที่สิ่งดีๆกำลังจะหมดไป
I’ll be giving it my bestest
ผมจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดของผมให้กับคุณ
Nothing’s going to stop me but divine intervention
ไม่มีอะไรที่จะหยุดผมได้ แต่การแทรกแซงของพระเจ้านั้น
I reckon it’s again my turn to win some or learn some
ผมจึงกลับมาคิดอีกที ว่าผมจะต้องรู้จักถึงการชนะบ้าง และเรียนรู้บ้าง
I won’t hesitate no more, no more
ผมจะไม่ลังเลอีกต่อไปแล้ว ไม่ลังเลอีกแล้ว
It cannot wait, I’m yours
ผมไม่สามารถทนรอได้ ผมเป็นของคุณ
* Well open up your mind and see like me
ช่วยเปิดใจของคุณ และมองมาที่ผมหน่อย
Open up your plans and damn you’re free
ช่วยเปิดแผนชีวิตของคุณ และทำลายมันซะ ปล่อยตัวคุณให้เป็นอิสระ
Look into your heart and you’ll find love love love
ลองมองเข้าไปในหัวใจ และคุณก็จะพบแต่คำว่า รัก รัก รัก
Listen to the music of the moment maybe sing with me
ฟังเสียงเพลงในตอนนี้ดูสิ คุณจะร้องเพลงนี้พร้อมผมก็ได้นะ ถ้าเป็นไปได้
A lá peaceful melody (2nd time: A lá one big family; 3rd time: A lá happy family; 4th time: A lá peaceful melody)
บทเพลงแห่งสันติภาพไง (2nd time: บทเพลงของครอบครัวใหญ่; 3rd time: บทเพลงแห่งความสุขของครอบครัว; 4th time: บทเพลงแห่งสันติภาพ)
It’s your God-forsaken right to be loved love loved love loved
เทพเจ้าแห่งความโชคร้ายของคุณ ยังพูดคำว่า รัก รัก รัก รักกัน
** So I won’t hesitate no more, no more
ดังนั้นผมจะไม่ลังเลอีกต่อไปแล้ว ไม่ลังเลอีกแล้ว
It cannot wait I’m sure
ผมไม่สามารถทนรอได้ ผมมั่นใจ
There’s no need to complicate
มันไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อนเลยนะ
Our time is short
เวลาของพวกเราแสนสั้น
This is our fate, I’m yours
สิ่งนี้คือพรมลิขิต ผมเป็นของคุณ
I’ve been spending way too long checking my tongue in the mirror
ผมใช้เวลาไปมากมายกับการสำรวจลิ้นของตัวเองอยู่หน้ากระจก
And bending over backwards just to try to see it clearer
แลบลิ้นเข้าๆออกๆเพื่อดูว่ามันสะอาดแล้ว (จะทำไปทำไม??? อิอิ)
My breath fogged up the glass
ลมหายใจของผมเป็นไอเกาะบนกระจก
And so I drew a new face and laughed
และผมก็วาดรูป
I guess what i’ma saying is there ain’t no better reason
ผมก็เข้าใจนะว่าสิ่งที่ผมพูดออกไปนั้น เหตุผลคงไม่ดีพอ
To rid yourself of vanity and just go with the seasons
ขอให้คุณช่วยสละทิฐิของตัวเองทิ้งไป และก้าวไปในช่วงเวลาของเรา
It’s what we aim to do
ว่าอะไรคือเป้าหมายของเรา
Our name is our virtue
และพวกเราจะจารึกชื่อของเราไว้
*/**/*
No please, don’t hesitate
ได้โปรด อย่าลังเลใจอีกเลย
no more, no more
อย่าเลยนะ อย่าเลย
It cannot wait
ผมรอต่อไปไม่ได้แล้ว
The sky is your’s!
ขนาดท้องฟ้าก็ยังเป็นคุณ
Life Insurance Knowledge:Life Insurance , private, death, employee pensions and annuities,life insurance, educational, life insurance companies
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น