ความคาดหวังของภาพยนตร์เรื่อง Red Riding Hood หลายๆคนอาจจะมีความหวังว่ามันต้องเป็นแนวหนังที่ตัวเองชอบ โดยเฉพาะเมื่อได้ยินว่า Catherine Hardwicke ผู้กำกับไอ้แวมไพร์ทไวไลท์มากำกับเรื่องนี้เอง ความคิดแรกก็ไอหนังเรื่องนี้ Red Riding Hood นี่สาวๆต้องกริ๊ดอย่างแน่นอน
ผมขอวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่อง Red Riding Hood ในความคิดเห็นของผู้ชายนะครับมันอาจจะไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของเค้าก็ได้ ภาพยนตร์เรื่อง Red Riding Hood มันไม่ได้ทำให้ผมตื่นเต้นเลย แต่มันก็ไม่น่าเบื่อซะทีเดียว เราลองมาดูความน่าเบื่อของภาพยนตร์เรื่อง Red Riding Hood กันก่อนดีกว่า (คิดวิจารณ์นี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวในฐานะผู้ชมเท่านั้นไม่ใช่ฐานะผู้กำกับ)
1.ฉากที่ไม่หลากหลายของภาพยนตร์
มันมีแต่ฉากหมู่บ้านเกือบ 80% วนวนเวียนๆอยู่ในนั้นทั้งเรื่อง โดยอย่างที่รู้กันครับถ่ายกันในสตูดิโอแล้วใช้ CG เพิ่มเข้ากับฉากนี้ ไม่ได้ถ่ายในหมูบ้านจริงๆครับ งาน CG ทำมาได้ไม่ดีเท่าไรน่าจะพอๆกับตำนานสมเด็จพระเนรศร
2.ฝรั่งแนวย้อนยุคกินใจคนได้ยาก
หนังแนวนี้มาฉายในบ้านเราเอาตัวแทบไม่รอดเกือบทุกเรื่อง ในประเทศอื่นผมไม่รู้นะผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่อาจจะไม่เข้าใจวัฒนธรรมแนวคิดอะไรหลายๆอย่างของเค้า ยิ่งฟังบทพูดของฝรั่งโบราณแล้วจังหวะการพูดคำพูดดูแปลกๆอาจทำให้หลายๆคนหงุดหงิดกับเรื่องนี้ได้
3.นางเอกสวยแต่พระเอกงั้นๆ
อาจจะเป็นจุดบอดจุดใหญ่ของเรื่อง Red Riding Hood เพราะปกติ Catherine Hardwicke จะไม่เน้นนางเอกสวยเท่าไร ถ้าเปรียบเทียบกับทไวไลท์ที่มีKristen Stewartเป็นนางเอก กับ Red Riding Hoodที่มี Amanda Seyfried หลายคนคงตัดสินได้ว่าใครสวยกว่ากัน สาวสวยมากๆอาจทำให้ท่านหญิงหลายคนไม่อยากดูก็เป็นได้ สำหรับพระเอกอย่าไปพูดถึงมันช่างธรรมด้าธรรมดาขนาดเลียนแบบบุคลิกของทไวไวท์มาแล้วนะเนี้ย
รูปน่ารักๆของ Amanda Seyfried หนุ่มๆเห็นแล้วใจละลาย
จุดเด่นของหนัง
ที่ผมชอบอย่างเดียวเลยก็คือนางเอก Amanda Seyfried เธอเป็นคนดูน่ารักและบอบบางมาก คือผู้ชายไทยคงชอบฝรั่งคนนี้ได้แน่นอนเพราะรู้ร่างหน้าตาเธอดูแล้วน่าถนุถนอมมากๆสำหรับผลงานโดยรวมของเธอก็ไม่ได้เปรี้ยงอะไรมากมายหรอกครับ ผลงานย้อนหลังของเธอว์ 4 เรื่องครับ เข้ามาเช็ค Rating เธอกันได้
ผมขอวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่อง Red Riding Hood ในความคิดเห็นของผู้ชายนะครับมันอาจจะไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของเค้าก็ได้ ภาพยนตร์เรื่อง Red Riding Hood มันไม่ได้ทำให้ผมตื่นเต้นเลย แต่มันก็ไม่น่าเบื่อซะทีเดียว เราลองมาดูความน่าเบื่อของภาพยนตร์เรื่อง Red Riding Hood กันก่อนดีกว่า (คิดวิจารณ์นี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวในฐานะผู้ชมเท่านั้นไม่ใช่ฐานะผู้กำกับ)
1.ฉากที่ไม่หลากหลายของภาพยนตร์
มันมีแต่ฉากหมู่บ้านเกือบ 80% วนวนเวียนๆอยู่ในนั้นทั้งเรื่อง โดยอย่างที่รู้กันครับถ่ายกันในสตูดิโอแล้วใช้ CG เพิ่มเข้ากับฉากนี้ ไม่ได้ถ่ายในหมูบ้านจริงๆครับ งาน CG ทำมาได้ไม่ดีเท่าไรน่าจะพอๆกับตำนานสมเด็จพระเนรศร
2.ฝรั่งแนวย้อนยุคกินใจคนได้ยาก
หนังแนวนี้มาฉายในบ้านเราเอาตัวแทบไม่รอดเกือบทุกเรื่อง ในประเทศอื่นผมไม่รู้นะผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่อาจจะไม่เข้าใจวัฒนธรรมแนวคิดอะไรหลายๆอย่างของเค้า ยิ่งฟังบทพูดของฝรั่งโบราณแล้วจังหวะการพูดคำพูดดูแปลกๆอาจทำให้หลายๆคนหงุดหงิดกับเรื่องนี้ได้
3.นางเอกสวยแต่พระเอกงั้นๆ
อาจจะเป็นจุดบอดจุดใหญ่ของเรื่อง Red Riding Hood เพราะปกติ Catherine Hardwicke จะไม่เน้นนางเอกสวยเท่าไร ถ้าเปรียบเทียบกับทไวไลท์ที่มีKristen Stewartเป็นนางเอก กับ Red Riding Hoodที่มี Amanda Seyfried หลายคนคงตัดสินได้ว่าใครสวยกว่ากัน สาวสวยมากๆอาจทำให้ท่านหญิงหลายคนไม่อยากดูก็เป็นได้ สำหรับพระเอกอย่าไปพูดถึงมันช่างธรรมด้าธรรมดาขนาดเลียนแบบบุคลิกของทไวไวท์มาแล้วนะเนี้ย
รูปน่ารักๆของ Amanda Seyfried หนุ่มๆเห็นแล้วใจละลาย
จุดเด่นของหนัง
ที่ผมชอบอย่างเดียวเลยก็คือนางเอก Amanda Seyfried เธอเป็นคนดูน่ารักและบอบบางมาก คือผู้ชายไทยคงชอบฝรั่งคนนี้ได้แน่นอนเพราะรู้ร่างหน้าตาเธอดูแล้วน่าถนุถนอมมากๆสำหรับผลงานโดยรวมของเธอก็ไม่ได้เปรี้ยงอะไรมากมายหรอกครับ ผลงานย้อนหลังของเธอว์ 4 เรื่องครับ เข้ามาเช็ค Rating เธอกันได้
.
Life Insurance Knowledge:Life Insurance , private, death, employee pensions and annuities,life insurance, educational, life insurance companies
บทความ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น