ส่วนมากเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ที่ชื่อว่า อีโคไล (E. coli) ซึ่งมักพบในลำไส้ใหญ่ โดยเชื้อนี้จะเข้าไปทางท่อปัสสาวะ โรคนี้มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากมีท่อปัสสาวะที่สั้นกว่า และอยู่ใกล้ทวารหนักซึ่งเป็นแหล่งที่มีเชื้อโรคมาก โรคนี้สามารถเป็นได้ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยสูงอายุ พบมากในหญิงตั้งครรภ์โดยเฉพาะช่วง 2-3 เดือนแรก หรือ ผู้หญิงที่ชอบอั้นปัสสาวะไว้นานๆ อาจพบเป็นโรคแทรกของผู้ป่วยเบาหวาน นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมากโต หรือ หลังการสวนปัสสาวะ หรือหลังการร่วมเพศ อาจมีอาการขัดเบา กระัเพาะปัสสาวะอักเสบ แพทย์เรียกว่า โรคฮันนีมูน (Honeymoon’ scystitis) สาเหตุเกิดจากการฟกช้ำจากการร่วมเพศ แล้วทำให้มีอาการอักเสบของท่อปัสสาวะ ผู้ชายมีโอกาสเป็นโรคนี้น้อยมาก
อาการ ปัสสาวะกะปริดกะปรอย รู้สึกปวดขัด หรือแสบร้อนเวลาถ่ายปัสสาวะ อาจมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย ปัสสาวะอาจมีกลิ่นเหม็น สีใส แต่บางคนอาจขุ่น หรือมีเลือดปน มักเกิดขึ้นหลังอั้นปัสสาวะนานๆ หรือหลังร่วมเพศ
อาการแทรกซ้อน ส่วนมากจะไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง แต่อาจเป็นๆ หายๆ เรื้อรัง ถ้าปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีเชื้อโรคอาจลุกลามทำให้กลายเป็นกรวยไตอักเสบได้
การรักษา ขณะที่มีอาการให้ดื่มน้ำมากๆ ถ้าปวดมากให้ทานยาแก้ปวด และยาปฏิชีวนะ เช่น โคไตรม็อกซาโซล , อะม็อกซีซิลลิน หรือ นอร์ฟล็อกซาซิน เป็นต้น ถ้าอาการไม่ดีขึ้น หรือเป็นซ้ำมากกว่า 2-3 ครั้ง หรือเป็นในผู้ชาย ควรรีบไปปรึกษาแพทย์
การป้องกัน ผู้ที่เคยเป็นโรคนี้เมื่อรักษาหายแล้วควรป้องกันมิให้เป็นซ้ำโดย
1. พยายามดื่มน้ำมากๆ และอย่าอั้นปัสสาวะ การอั้นปัสสาวะทำให้เชื้อโรคอยู่ในกระเพาะปัสสาวะได้นานจนสามารถเจริญแพร่พันธุ์ ประกอบกับกระเพาะปัสสาวะยืดตัว ความสามารถในการขจัดเชื้อโรคของเยื่อบุผิวกระเพาะปัสสาวะลดลง จึงทำให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้
2. หลังถ่ายอุจจาระ ควรใช้กระดาษชำระเช็ดทำความสะอาดจากข้างหน้าไปข้างหลังเพื่อป้องกันมิให้นำเชื้อโรคบริเวณทวารหนักเข้าสู่ท่อปัสสาวะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น