วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ซูซัน

เป็นการยาก


ที่จะเข้าใจความหมายคำว่า”รัก”


แต่ก็ไม่ยากนัก



ที่จะรักอย่างเข้าใจ

"เฮ้ 'เฟย์' ชั้นกลับมาแล้วนะ!!" เสียงชายหนุ่มตะโกนเรียกดังลั่นพร้อมลงจากหลังม้า คนในชุดเกราะของอัศวินแบบ gusty fencer ว่าจบก็วิ่งไปทางหญิงสาวในชุดผ้าสีขาวหม่น

เฟย์เป็นหญิงสาวผมยาวอายุราว ๆ สิบเจ็ด ผมสีน้ำตาลดำยาวสลวยถึงแผ่นหลัง ใบหน้ารียาวน่าจะเหมาะกับคำว่าสวยคม ท่อนขาเรียวยาวบิดกลับไปมองผู้มาเยือนที่กล่าวเรียกชื่อเธอ

พอดีกับที่ชายหนุ่มเข้าใกล้เกือบถึงตัวแล้ว เฟย์จึงตวัดดาบยาวในมือใส่ทันทีจนผู้มาเยือนชักดาบปลายแหลมของตนออกมารับแทบไม่ทัน

ชายหนุ่มตวัดดาบของตนปะทะกับดาบของหญิงสาวจนเธอเซออกไปสองสามก้าว ก่อนจะใช้ตัวดาวเรียวตีมือจนเฟย์ต้องปล่อยดาบออก

"มันเจ็บนะอีตาบ้า 'เวล' ไม่เจอกันนานนี่เริ่มทำร้ายสุภาพสตรีแล้วรึไงกัน" เฟย์ออกปากแหวใส่เพื่อนเก่า มือซ้ายที่ปล่อยว่างไว้เมื่อครู่ก็เข้ากุมมือขวาด้วยความเจ็บปวดพร้อยสะบัดไปมาราวกับต้องการจะไล่ความเจ็บปวด

"สุภาพสตรีอะไรกัน โผล่มาก็หวดดาบใส่ทันที นี่ไม่ได้เจอกันจะ..." ยังกล่าวไม่ทันจบ ร่างของหญิงสาวก็โผเข้ากอดชาวหนุ่มแนบแน่นเนิ่นนาน จนสีหน้าของเวลเปลี่ยนเป็นแดงเรื่อ เฟย์ที่ผละออกมาที่เห็นสีหน้าเพื่อนเก่าก็หน้าเปลี่ยนสีพร้อมแหวตอบทันที

"อ.. อะไรกันเล่า อยู่ ๆ นายก็หายไปเฉย ๆ นี่นา ทิ้งไว้ให้แต่จดหมายเฮงกะบ๊วยนั่น นี่คิดว่านายจะไม่กลับมาแล้วนะเนี่ย" เอ่ยพลางก็สำรวจเครื่องแต่งกายของอีกฝ่ายไปพลาง แม้ว่าหมู่บ้านที่ทั้งคู่อยู่นั้นจะอยู่ห่างไกลเมืองหลวงอย่าง 'นอร์ทเวลซ์' ซึ่งเป็นตัวออกเครื่องแบบนี้ให้ก็ตาม แต่ด้วยความที่สนใจในอาชีพนักรบอยู่แล้ว หนังสือเกี่ยวกับนักรบในห้องสมุดจึงไม่รอดพ้นที่จะมอบรายละเอียดให้สมองของเธอไปได้

"ว้าว... gusty fencer งั้นเหรอ เลือกฝึกตามที่ผู้อาวุโสแนะนำมางั้นสินะ" เฟย์กล่าวขึ้นพลางลูบคลำไปตามชุดเกราะสีเขียวเข้ม โลหะพิเศษสีแดงที่หน้าอกตีตราเป็นสัญลักษณ์รูปคล้ายเสือซึ่งเป็นสัญลักณ์ของนอร์ทเวลซ์

"เธอเองก็เถอะ ทำไมไม่เลิกสนใจจับดาบจับโล่ซะที สิบปีที่ผ่านมาไม่มีใครแนะนำเลยหรือไงว่านักรบหญิงที่เก่งจริง ๆ น่ะ ในประวัติศาสตร์ของทรินิตี้นี้ไม่เคยมีเลยแม้แต่คนเดียวนะ" เวลพยายามอธิบาย แต่อีกฝ่ายแย้งขึ้นมาก่อน

"ก็ถ้าไม่มีชั้นก็จะเป็นคนแรก ให้รู้กันไปสิว่าผู้หญิงที่ขึ้นชื่อในประวัติศาสตร์นอกจากจะแต่งงานกับนายทหารใหญ่หรือเป็นจอมเวทแล้ว ก็ยังมียัยเฟย์นี่ล่ะ ที่จะลองเป็นวีรสตรีออกตัวออกดาบเข้าปกป้องผู้คนกับเค้าดูบ้าง" เจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลเมื่อยินทั้งคำพูดมั่นคง รับรู้ทั้งสายตาแน่วแน่แล้วก็ถอนหายใจเหนื่อย ๆ ก่อนเอ่ยตอบปลง ๆ ว่า

"เอาเถอะ.." เขาเกริ่นพร้อมแกะฝักดาบออกจากข้างเอวแล้วสวมมันลงบนดาบ "ถ้าเธอต้องการอย่างนั้นจริงชั้นจะเป็นคู่ซ้อมให้ แต่ก่อนหน้านั้นก็ช่วยเก็บดาบของเธอเข้าฝักก่อนแล้วกัน"



สองชั่วโมงถัดมา หนึ่งชายหนึ่งหญิงก็เริ่มเซไปเซมา ชุดเกราะและเสื้อขาวก็เริ่มเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นดินฝุ่นโคลน ตามเนื้อตัวแขนขาบ้างก็มีรอยฟกช้ำด้วยแรงฟาดของฝักดาบ สองชั่วโมงที่ผ่านมานี้ทำให้ทั้งสองสามารถเอ่ยชมอย่างไม่ติดใจว่าอีกฝ่ายนั้น "เก่งขึ้นมาก" จริง ๆ

ในที่สุดเวลก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ขอนั่งพักก่อน เฟย์ที่เหนื่อยเต็มทีแล้วจึงไม่ทักท้วงให้หยุดซ้อมแต่ประการใด ซ้ำยังลงนั่งก่อนอีกต่างหาก

ทั้งคู่หยุดพักหอบหายใจอยู่พักใหญ่ ในที่สุดเฟย์ก็เอ่ยถามขึ้นมาก่อน

"แล้วนี่กลับมายังไงล่ะ?"

"มาพร้อมคุณ 'บราฮ์ม' น่ะ เห็นเขาบอกว่ามีธุระที่หมู่บ้านพอดี ชั้นเองก็เพิ่งเลื่อนระดับที่นั่นเกิดคิดถึงบ้านขึ้นมาก็เลยกลับมา เขาออกเงินซื้อม้าให้ด้วยนะ ตัวที่ชั้นขี่มานั่นน่ะ" เวลอธิบาย มือก็ชี้ไปที่ม้าสีน้ำตาลปนขาวตัวใหญ่ที่ตนใช้ขี่ขึ้นทุ่งหญ้านี้มา

"นักดาบที่เดินทางเข้าหมู่บ้านมาเมื่อตอนนั้นน่ะเหรอ? ที่ทักว่าเธอหน่วยก้านดีอะไรนั่นน่ะ?" เฟย์ว่าเกี่ยวกับเรื่องเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อน นอกจากความรักเรียนรักรู้ของเธอแล้ว ความจำและความสามารถด้านการพัฒนาของเธอก็สูงมากพอจะเป็นยอดนักเวทเลยทีเดียว

"อืม คนนั้นนั่นแหละ เห็นเขาบอกว่าเป็นคนเดินจดหมายติดต่อกันระหว่างเมืองหลวงใหญ่ ๆ น่ะ ฝีมือธรรมดาเชียวล่ะ" เวลว่านัยน์ตาเป็นประกาย ไม่ได้สังเกตว่าอีกฝ่ายไม่ได้ฟังคำพูดเขา แต่กลับเหม่อมองไปยังภาพด้านหลังของชายหนุ่ม

"เฮ้! ควันไฟจากหมู่บ้าน เวล!" ว่าจบร่างสูงเพรียวก็คว้าดาบยาวของตนพร้อมลุกขึ้น อีกฝ่ายได้ยินดังนั้นก็คว้าดาบแล้วฉุดมือหญิงสาวไปทางม้า มือซ้ายของตนก็สาละวนผูกฝักดาบเข้าคืนที่ข้างเอวให้เร็วที่สุด

เวลตบมือเข้าที่ข้างท้องม้าเเพียงครั้งเดียวมันก็ลู่กายลงอย่างรู้งาน ทั้งสองโดดขึ้นขี่บนหลังมันอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เท้าทั้งสี่จะควบกลับไปยังทิศทางของหมู่บ้านทันที...
เนื่องจากทุ่งหญ้าที่ทั้งสองขึ้นมาฝึกนั้นมีลักษณะเป็นเนินเขาซึ่งสูงกว่าหมู่บ้านไม่น้อย เมื่อเข้าใกล้บริเวณมากพอก็สามารถเห็นหมู่บ้านของตนกำลังลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงไม่ยากนัก เห็นแบบนั้นเข้าเวลเองก็ยิ่งเร่งความเร็วของม้าขึ้นไปอีก

หมู่บ้านที่ทั้งสองพักอาศัยอยู่เป็นหมู่บ้านห่างไกลเมืองใหญ่ไปทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ เนื้อที่ไม่กี่ตารางกิโลเมตรก็มากเพียงพอที่ครอบครัวกว่ายี่สิบจะอยู่ด้วยกันโดยไม่แร้นแค้นมากนัก ทำไร่ไถนาปลูกผักหาปลา กับฟาร์มสัตว์เล็ก ๆ ก็พอจะแบ่งปันอาศัยกันได้ทั้งหมู่บ้าน

เนื้อที่ที่ใช้เพาะปลูกแทบทั้งหมดยังคงปลอดภัยดีอยู่ แต่ส่วนกลางของหมู่บ้านซึ่งตั้งโบสถ์ประจำพื้นที่และบ้านเรือนบริเวณนั้นกลับลุกลามใหญ่โต ทั้งสองที่มาถึงก็เร่งควบม้าไปยังจุดน่าสงสัยนั่นทันที

ที่นั่น หญิงชราในชุดแบบนักบวชกำลังยืนเผชิญหน้าอยู่กับนักดาบร่างสูง ตัวนักบวชหญิงนั้นเป็นคนในหมู่บ้านที่ทั้งสองรู้จักกันดี เธออยู่ในชุดคลุมยาวสีขาวซึ่งแตกต่างจากเครื่องแบบมาตรฐานของเมืองหลวง ในมือมีคทาเหล็กยาวไร้การประดับประดา ส่วนชายอีกผู้หนึ่งอยู่ในชุดเกราะสีแดงเพลิงคาดแถบทองไปทั่วเกราะดูวิจิตรคล้ายเกราะของ pyro dueler ต่างกันก็ที่ไม่มีเกราะส่วนไหล่และหมวกเหล็ก ดาบวงเดือนโค้งใหญ่สลักเสลาดูแปลกตากว่ารูปแบบอื่น ที่มือซ้ายอีกข้างก็มีถุงมือเหล็กหน้าตาประหลาดลวดลายแบบชุดเกราะขึ้นมาด้วย

ที่น่าแปลกที่สุดคงจะเป็นนัยน์ตาทั้งสองข้างที่ถูกคาดด้วยแถบผ้าสีดำยาว และดวงตาที่สามกลางหน้าผากซึ่งมีนัยน์สีแดงก่ำดุจปีศาจ ทั้งข้างซ้ายขวาของตัวเขาก็มีสัตว์อสูรด้านมืดอย่าง dark rodent ถึงสองตัว

แม้ลักษณะเครื่องสวมใส่จะต่างไปจากเก่ามาก แต่ด้วยรูปร่างสูงโปร่งอันเป็นเอกลักษณ์ บวกกับผมสีขาวซีดและเหตุบังเอิญที่เกิดขึ้นพอดีทำให้เวลที่เพิ่งมาถึงชักดาบออกมาและพุ่งเข้าแทงจากบนหลังม้าทันที "บราฮ์ม แก!!!"

ส่วนเฟย์เมื่อเห็นท่าของเวลอยู่ก่อนแล้วจึงกระโดดออกจากหลังม้าลงไปเซอยู่กับพื้นชั่วครู่ก็เข้าใกล้คนรู้จักของตน

"ป้ามารี เป็นยังไงบ้างคะ" หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก ป้ามารีของเธอในตอนนี้ร่างกายเต็มไปด้วยรอยแผลไฟไหม้และคมดาบ ตอนนี้ที่ยืนอยู่ได้ก็ด้วยการค้ำกายกับท่อนคทายาวและพลังเยียวยาของตนเท่านั้น

"ไม่เป็นไรหรอกหลานเอ้ย ตอนนี้ถ้าจะห่วงก็ห่วงเวลก่อนเถอะ" กล่าวจบเฟย์ก็หันกลับไปดูเพื่อนของตนทันที เพิ่งจะพบว่านอกจากความต่างกันด้านธาตุข่มธาตุแล้ว ประสบการณ์ในการต่อสู้ยังห่างไกลกันมากอยู่ เมื่อตั้งท้าจะคว้าดาบเข้าไปช่วยก็เหลือบไปเห็นสัตว์อสูรรูปร่างคล้ายกระต่ายสีม่วงพุ่งเข้าหาป้ามารีก็ทำท่าจะวิ่งกลับไปช่วยซะอย่างนั้น

เมื่อตนเห็นว่า dark rodent สองตัวกำลังจะพุ่งเข้ามาหา เจ้าตัวจึงท่องคาถาสายแสงขึ้นมารวดเร็ว เมื่อทั้งสองถึงในระยะโจมตีก็เอ่ยประกาศชื่อมนตร์ลั่น "Holy word!!"

สิ้นเสียงประกาศ รอบตัวผู้ใช้ก็พลันมีอักษรสีขาวพุ่งวนรอบตัวอย่างรวดเร็ว ก่อนจะแตกตัวออกกระแทกใส่กระต่ายม่วงทั้งสองตัว "แค่ลูกลิงสองตัว เลี้ยงแกยังยากกว่าเยอะน่า ไปซะ เร็ว!!" ป้ามารีเอ่ยอธิบายเสียงแข็ง พร้อมกับเริ่มร่ายเวทอื่นต่อเพื่อรับมือกับศัตรู เฟย์ที่เห็นดังนั้นจึงรีบหันกลับไปช่วยเพื่อนของตนทันที

ทางด้านเวลที่แม้เพิ่งดวลดาบกันได้ไม่นาน แต่ผลการดวลก็แสดงออกมาให้เห็นง่าย ๆ ด้วยอาการเหนื่อยหอบรุนแรงของเขาที่ตามด้วยการโดนคมดาบพุ่งแทงใส่ชุดเกราะจนเจ้าตัวเซลงกับพื้น เห็นศัตรูล้มลงตรงหน้า มือซ้ายของบราฮ์มก็ยกขึ้นหันไปทางคนตรงหน้า พร้อมกับบังเกิดประกายไฟค่อย ๆ เปลี่ยนรูปร่างเป็นมีดหลายสิบเล่มขึ้นมาซึ่งเป็นสภาพพร้อมใช้งาน

พลันเฟย์ซึ่งกำลังวิ่งมาก็ฉวยร่างของเวลหลบไปที่อื่น ส่งผลให้มีดซึ่งพุ่งออกมาเฉียดปลายกระโปรงของเธอและเริ่มลุกไหม้ไปเรื่อย เนื่องจากกระโปรงของเธอมีลักษณะคล้ายผ้าสีขาวสี่ผืนกว้างยาวพอเหมาะมาเย็บติดกันกับผ้าผืนยาวซึ่งพันรอบเอวอยู่ ดังนั้นเธอจึงตวัดดาบยาวของตนตัดปลายกระโปรงนั่นทิ้งทันทีโดยไม่ต้องคิด

"โฮ่...." เสียงแหบแห้งนั่นดังขึ้นมาจากชายผู้นั้นทั้งที่เขาไม่ได้ขยับปาก "นักดาบหญิงงั้นรึ...น่าสนใจ...น่าสนใจ..ข้าล่ะชอบนักพวกที่พยายามจะก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเอง...."

"แต่สิ่งที่ข้าชอบที่สุด..." ร่างสูงเพรียวยกดาบที่มือขวาขึ้นตั้งท่าดาบแบบใหม่ ขาซ้ายยืดออกไปด้านหน้าพร้อม ๆ กับมือซ้ายที่ยื่นตามออกไป แขนขวายกดาบขึ้นชี้ไปทางด้านหน้า ปลายดาบแนบเคียงกับมือซ้ายคล้ายการเล็ง "...คือการทำลายความหวังนั่น..ค่อย ๆ ทรมานมัน มอบความสิ้นหวังให้มัน ฮ่าๆๆๆ" สิ้นเสียงหัวเราะแสดงความบ้าคลั่งของคนพูดแล้ว ร่างในชุดเกราะแดงก็พุ่งเข้าหาทั้งสองทันที

เมื่อเห็นว่าเวลเองยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ เฟย์จึงพุ่งเข้าตวัดดาบขวางเอาไว้ ฝ่ายบราฮ์มเมื่อเห็นอีกฝ่ายพุ่งเข้ามาแล้ว ตนจึงสบัดดาบออกต้าน พลันเมื่อดาบทั้งสองประทะกัน เปลวเพลิงจากดาบเล่มใหญ่ก็ลุกท่วมฝักดาบของเฟย์ แม้อยากสลัดทิ้งก็ทำไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายยังคงเพิ่มแรงประทะขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อเห็นว่าเพื่อนของตนกำลังลำบาก เวลก็ได้แค่รวบรวมพลังพร้อมพุ่งเข้าแทงเป็นแนวตรงใส่ชายชุดเกราะแดง เห็นว่ามีคนพุ่งมาทางตนเขาจึงเหวี้ยงเท้าซ้ายขึ้นเตะเฟย์จนเซล้มกลิ้งไปไกล ก่อนตวัดดาบเข้าเบี่ยงคมให้ห่างออกจากตัวจนทั้งดาบทั้งคนใช้ก็เซถลากันไปตาม ๆ กัน

แต่บราฮ์มไม่หยุดแค่นั้น เขาเก็บดาบเข้าฝักที่กลางหลัง มือซ้ายก็คว้าแขนเวลไว้จนคนโดนคว้าปลิวไปมา ปากก็ท่องมนตร์ธาตุรวดเร็วจนมือขวาบังเกิดมีดเพลิงหลายสิบเล่มผุดขึ้นมาอีกครั้ง เพียงแค่วาดมือขวาไปด้านหน้าเล็กน้อย มนตร์ magic fire dagger ก็พุ่งเข้าปักแขนซ้ายของเวลอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งลุกลามเป็นเปลวเพลิงมากขึ้นเรื่อย ๆ ป้ามาลีที่เพิ่งจัดการ dark rodent ทั้งสองตัวได้อย่างยากลำบากเมื่อเห็นเช่นนั้นแล้วจึงตวัดคทาเวทวูบส่งพลังกลับมา

บราฮ์มชักดาบตวัดจนลูกพลังนั่นสูญสลายไปกับอากาศ ก่อนจะพุ่งดาบแทงรางของจอมเวทแสงครั้งเดียวทะลุ มือซ้ายและปากที่ว่างอยู่ก็เริ่มท่องเวทอีกครั้ง ดาบวงเดือนกว้างใหญ่ก็เริ่มทอประกายสีดำผสมกับเปลวเพลิงจนร่างนั้นลุกไหม้กลายเป็นจุลอย่างรวดเร็ว!

ฝ่ายเฟย์ที่โดนปลิวไปไกลยังคงเหลือสติสตังอยู่เล็กน้อย นัยน์ตาปรือก็มองคนทั้งสองโดนทำร้ายทั้งน้ำตา พร่ำแต่โทษความไม่ได้เรื่องของตนเองในใจจนกระทั่งร่างสูงนั่นหันมองกลับมา ก่อนที่มโนภาพทั้งหมดทั้งมวลจะถูกหลอมรวมกับเปลวเพลิง มันค่อย ๆ ลุกลามภาพที่เธอเห็นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่ภาพทั้งหมดจะเปลี่ยนเป็นสีดำ

บราฮ์มเผยรอยยิ้มเยาะที่มุมปากเมื่อเหลียวกลับไปมองร่างไร้สติของหญิงสาว พลางก้าวช้า ๆ เข้าไป.

Life Insurance Knowledge:Life Insurance , private, death, employee pensions and annuities,life insurance, educational, life insurance companies

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Search for content in this blog.