“ พญานาคราช ”
เราแปลกใจเล็กน้อย "งานเข้าอีกแล้ว" ก็รับโทรศัพท์จากครูขวัญ ก็คุยกันไม่รู้เรื่องหรอกครับ ในห้องแอร์ ห้องทะเบียน สัญญาณโทรศัพท์ไม่ค่อยดี ก็เลยออกมาคุยหน้าอาคาร 2
“มาหลังอาคาร6 หน่อย
“ครับ”
ภูมิก็เดินไป คิดไป บ่นไป บ้าไป ยิ้มไป รับไหว้ไป ถามไป ตอบไป จนกระทั้งมาถึงหลังอาคาร 6คิดภาพดูนะครับ ดาราไปไหนมาไหน คนจะมองแล้วทักทาย ....!!
"ทำไมต้องหลังอาคาร 6" เราเองก็คิดในใจ เดินไปอย่างรวดเร็ว กระฉับกระเฉง พอไปถึงมองไปยังเบื่องหน้าภาพที่เห็นคือผู้คนค่อนข้างพอสมควรกำลังนั่งเสมือนว่าประกอบพิธีไรซักอย่าง แต่ภูมิไม่ได้สนใจเลย ไม่แคร์ก็มีผู้หลักผู้ใหญ่ ใครเป็นใครไม่รู้จักหรอก ก็ไม่ได้แคร์หรอกครับ แต่ว่ามีมารยาทที่ดีงาม สรุปที่เรียกพบคือ
“เกี่ยวกับคนที่การย้ายเข้าย้ายออกของเด็กน้อย”
มันเสร็จเร็วมาก จนเราพูดไปว่า
“แค่นี้เหรอครับ” แล้วเราก็ทิ้งตัวลงไปนอนบนเสื่อกกขนาดใหญ่ (โอ้..เราเดินมาตั้งไกล ) ครูนารีรัตน์ กับรองสมหมายหัวเราะใหญ่เลย
หลังจากนั้น เราก็ค่อยๆหันไปสังเกตรอบๆ มีพระพุทธรูป พร้อมด้วยเครื่องไหว้ ธูปเทียน เครื่องเซ่นไหว้ ผักผลไม้จิปาถะ มีพระสงฆ์ และแปลกๆ อื่นๆมากมายเลยทีเดียว
“นี้กำลังทำอะไรหรือครับ” ภูมิเอ๋ยปากถามชายสูงอายุ ที่แต่งตัวด้วยชุดขาวทั้งตัว
“ทำพิธีขอโทษ เจ้าที่เจ้าทาง” ก็จับใจความได้ประมาณนี้
และอย่างที่บอกความสงสัยไม่มีสิ้นสุด ของภูมิ"แล้วพิธีที่ทำ ทำเพื่ออะไรเหรอครับ เพราะอะไร"ชายคนนั้นก็บอกคร่าวๆ สิ่งที่ได้รับฟังก็ทำให้เราสงสัยเพิ่มมากไปอีก ประจวบเหมาะกับ .... สัมผัสพิเศษที่มีอยู่แล้วอยู่ๆ ก็รู้สึกเย็นวูบวาบไปทั้งตัว ขนลุกซู่ทั้งตัว ก็ไม่ยอมไปไหน เดินมาตั้งไกลเหนาะ ขอนั่งพักก่อน
ครู่หนึ่ง คนที่เราถามเมื่อครู่ หรือคนที่ตอบคำถามเราเมื่อตะกี้ ก็จุดธูปทำอะไรซักอย่าง
แล้วอยู่ๆ ร่างของเขาก็นอนลงกับพื้น นอนลงราบกับพื้นดินไปเลย มือทั้งสองพนมมือ แค่นั้นแหละภูมิก็เลยหยิบมือถือถ่ายคลิปวีดีโอไว้
ถ่ายไปถ่ายมา นานขึ้นๆ ชักแปลกๆ กิริยาบท ท่าทาง ของร่างทรง มีกิริยาท่าทางเสมือนว่ากำลังคืบคลานยังไงยังงัน
“ป้าคนทำครัว บอกเราว่า เมื่อก่อนที่แห่งนี้ โรงเรียนแห่งนี้ก่อนที่จะทำการก่อตั้ง ที่แห่งนี้เคยเป็นเมืองๆหนึ่ง และสถานที่แห่งนี้เป็นธารน้ำไหลที่ไหลลงมาจากภูเขาลำปะทาว ก็จะสร้างโรงเรียน ก็ต้องจ้างวิศวกร ซึ่งวิศวกรก็ออกแบบอาคารสถานที่ และสิ่งนั้นคือการถม การนำดินมากลบ เพื่อความราบเรียบ โดยหารู้ไม่ว่าที่สถานที่แห่งนี้มีอะไรบางอย่างที่ใครก็คาดไม่ถึง "ท่านมาแล้ว ท่านมาแล้ว" ครู่หนึ่ง ก็รู้สึกวูบไป ไอเย็นมาจากไหนก็ไม่รู้ ก็รู้สึกเย็นวูบวาบไปทั้งตัว ขนลุกซู่ทั้งตัว
เพียงแค่พริบตา ประมาณ 3 วินาที ก็เห็นอะไรลางๆ .....ไม่ขออธิบายละกันนะครับ
ก็มีผู้หลักผู้ใหญ่เข้าไปขอพรจากเจ้าเมือง(เขาว่าอย่างนั้น) กัน และมีเหรอที่เราจะนิ่งเฉย ก็เลยขยับเข้าไปใกล้ๆ พนมมือไหว้ ปิดคลิปมือถือ แต่ละคนที่เข้าไปขอพรท่านเจ้าเมืองต่างก็แตกต่างกันออกไป ยาวสั้นแล้วแต่คน
แต่สำหรับเรา “ดีแล้ว ดีแล้ว ดี ดี ดี” สั้นๆ เรายังคิดในใจ บอกละเอียดกว่านี้ก็ได้ แต่ไม่เป็นไรคนข้างหลังเยอะ
“สิ่งที่ทำให้คนอีกคนหนึ่งเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากอย่างหนึ่งเป็นอย่างสาม มันน่า สงสัยนัก
อย่างที่บอกว่า กิริยาท่าทางดูคล้ายงูใหญ่ แต่ภูมิคิดว่าไม่น่าจะเป็นงู แต่เป็นสัตว์วิเศษในตำนานต่างหากละ
ใช่แล้วยังไงก็แน่นอนชัวร์ เมื่อได้ฟังเรื่องเล่าโบราณโบร่ำมา
นับว่าเป็นบุญบารมีที่ได้มาร่วมในพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ รองสมหมายแซวภูมิว่า
“ไอ้ภูมิ มันดวงดี มีบุญนะนิ เจอแต่สิ่งดีดีตลอด”
ก็อยากบอกว่า ก็ผมฟรีไงครับ ฟรีสไตล์ ทุกอย่างคือจริงใจ ทำไปก็ไม่ได้ทำเพื่อใคร แต่ทำให้ดีที่สุดก็พอ
หลังจากนั้นก็ได้ของกินติดไม้ติดมือมาด้วยครับ ที่ติดไม้ติดมือมา ก็จริงใจนะครับ ไม่ได้งกเด้อ
รู้สึกตื่นเต้นมาก...กับความอัศจรรย์มาก แต่ความคิดทางวิทยาศาสตร์ก็มาคัดค้านเสมอ .... อุปทานรึเปล่า ภูมิภัทร
แต่ยังไงซะ สำหรับเราการลบหลู่ไม่เกิดขึ้นแน่นอน .... และไม่ใช้ว่าไม่เชื่อ เพียงแต่เชื่อไม่สนิทใจเท่านั้นเอง
หมายเหตุ เรื่องที่เล่าเป็นเพียงสิ่งที่ได้รับฟังมาเท่านั้น “ต้นสายปลายเหตุ” มีเพียงความมหัศจรรย์เท่านั้นที่บอกได้
คติเตือนใจ" คิดดี ทำดี ใฝ่ดี มีแต่เจริญ"
บาปบุญคุณโทษมีแน่นอน เวรกรรมทำผิด ต้องชดใช้ ความดีเท่านั้นที่จะปกป้องคุ้มครองเราจากสิ่งเลวร้าย พร้อมทั้งส่งเสริมให้เราเจอแต่สิ่งที่ดีงามตลอดกาล
"ขยะในมือท่าน แดกแล้วก็โปรดจงละอายใจ เอาไปทิ้งหน่อยนะครับ"
"อะไรที่มันไม่ดีไม่งาม อย่าได้กระทำเลย ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ แค่นี้ละครับ พองามพอดี"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น