วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

สถานที่โบราณที่มีอายุเก่าแก่ประมาณ 17,000 ปีที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในการตัดหิน

สถานที่โบราณที่มีอายุเก่าแก่ประมาณ 17,000 ปีที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในการตัดหิน
หมายเหตุ ได้มาจาก http://www.zone-it.com/forum/index.php?topic=186163.msg1102272#msg1102272 ขออนุญาตเผยแพร่เป็นความรู้นะคะ

ประวัติ ศาสตร์โลกที่เราเรียนกันมาตามตำราเรียนนั้น ย้อนหลังไปอย่างมากเพียงสองถีงสามพันปี และเต็มไปด้วยการทำสงคราม แย่งชิงความเป็นใหญ่ และ สร้างความแตกแยก ในความเป็นจริงนั้นประวัติศาสตร์โลกมีหลายมิติ และ ลีกกว่าสี่งที่เราเรียน อีกทั้งยังมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ อีกหลายชิ้นที่ขัดแย้งกับเรื่องราวที่ถูกบันทีกไว้ในตำราเรียน โดยเฉพาะเรื่องของวิวัฒนาการของมนุษย์ตั้งแต่สมัยอดีตจนถีงปัจจุบัน เราต้องเริ่มต้นจากการวิเคราะห์โบราณสถานที่สำคัญของโลกเพื่อที่จะเข้าใจ ศักยภาพของมนุษย์โบราณ และประวัติศาสตร์ที่คนเหล่านั้นทำขี้นซี่งไม่ตรงกับตำราที่เราเรียนกันอยู่ ในปัจจุบัน
โบราณสถานที่สร้างด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง

ปิรามิด

จาก หนังสือเรียนประวัติศาสตร์ที่เราเรียนกันมาสอนว่าปิรามิดสร้างขี้นมาจากการ ใช้แรงงานทาสและใช้เครื่องมือโลหะเช่น ทองแดงในการตัดหิน การก่อสร้างต้องทำรางเพี่อเข็นหินขี้นไปวางตามตำแหน่งที่ต้องการ และประวัติไม่ค่อยกล่าวถีงปิรามิดที่อี่น การจะพิสูจน์ข้อสรุปนี้ เราต้องวิเคราะห์จากหลักฐานทางโบราณคดีและใช้คณิตศาสตร์และฟิสิกส์คิด จากพี้นที่ทั้งหมด 5.3 ตารางกิโลเมตร มีความสูง 146.6 เมตร คำนวณปริมาตรทั้งหมดเทียบกับหินแต่ละก้อนที่ไปวางที่มีน้ำหนักโดยเฉลี่ยมากก ว่าหนี่งตัน จะพบว่าปิรามิดมีหินทั้งหมดประมาณ 2.3 ล้านก้อน ในความเป็นจริงแล้วบางก้อนมีขนาดใหญ่กว่านั้นมาก ในประวัติศาสตร์ที่เขียนไว้บ่งบอกว่าใช้เวลาการก่อสร้าง 20 ปี ดังนั้นถ้าใช้สมมุติฐานที่ว่าคนก่อสร้างทำงานทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงเป็นเวลา 20 ปีนั้นจะต้องนำหินที่ตัดได้ขนาดเอาไปวางที่ปิรามิดทุกๆ 2 นาทีโดยที่ไม่หยุดพักผ่อน ถ้าคนเหล่านี้ต้องหลับนอนเวลาที่สร้างก็ต้องลดลงไปอีก นอกจากเรียงหินได้รูปร่างแล้วความเที่ยงตรงของหินทั้งหมดก็ต้องสูงมากเพราะ จากหลักฐานภาพถ่ายดาวเทียมพบว่าความเที่ยงตรงจากปลายยอดปิรามิดไปที่ฐานนั้น คลาดเคลื่อนไปเพียง 6 มิลลิเมตร ปิรามิดเองก็ทรุดตัวลงเล็กน้อยในระยะเวลาหลายพันปี ซี่งน้อยกว่าสิ่งก่อสร้างปัจจุบันที่ทรุดตัวมากกว่าและความเที่ยงตรงในการ สร้างน้อยกว่า จากรายงานในปี 2010 นี้เองยังพบว่าปิรามิดไม่ได้สร้างจากการใช้แรงงานทาสอีกด้วย จากการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์เช่นนี้แล้วสรุปได้ว่าประวัติศาสตร์ที่เรา เรียนมามีความบิดเบือนจากความเป็นจริง และไม่มีความพยายามที่จะแก้ไขให้ตรงแม้ความจริงทั้งหลายจะเริ่มปรากฏออกมา อีกทั้งนักโบราณคดีส่วนใหญ่ถูกสอนความเชื่อที่ผิดกันมาตั้งแต่อายุยังน้อย และ จะพยายามทำงานวิจัยเพี่อสนับสนุนความเชื่อนี้ หรือ เพื่อตอบสนองความอยู่รอดในระบบ




Baalbek, Lebanon
นอก จากจะมีสี่งก่อสร้างอย่างปิรามิดแล้ว ยังมีสิ่งก่อสร้างอย่างอี่นที่แสดงถีงศักยภาพที่มนุษย์ปัจจุบันไม่มี นั้นคือความสามารถในการยกหินที่มีขนาดใหญ่หลายร้อยตันได้ สิ่งก่อสร้างที่ Baalbek นั้นก็เป็นสี่งก่อสร้างอีกชิ้นหนี่งซี่งคล้ายกับการก่อสร้างที่กรีก และ โรมัน แต่มีความใหญ่โตกว่าประมาณ 2 เท่าหินที่ใช้ในการวางรากฐานของอาคารหนี่งก้อนนั้นมีขนาดใหญ่ประมาณตีก 5 ชั้น และ มีน้ำหนักหลายร้อยตันหรือประมาณการไม่ได้ มีหลักฐานว่าได้มีการเคลื่่อนย้ายหินนี้เป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร ขนาดของหินนั้นใหญ่เกินกว่าที่รถเครนที่ใหญ่ที่สุดในโลกจะยกได้ ไม้ซุงก็ไม่สามารถใช้ในการเป็นล้อในการขนย้ายได้เนี่องจากน้ำหนักของหินนั้น สามารถบดไม้ได้ละเอียด หลักฐานชิ้นนี้เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่บ่งบอกว่า มนุษย์สมัยโบราณมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูงกว่าปัจจุบัน และพวกเราควรจะตั้งคำถามว่าทำไมสิ่งก่อสร้างนี้ถีงไม่ได้บรรจุใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก และ ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในตำราเรียน


(รูปภาพด้านบนถูกย่อขนาดลง คลิ๊กที่นี่เพื่อดูภาพขนาดจริง)
ขนาดของสิ่งก่อสร้างเทียบกับมนุษย์

Tiahuanaco
เป็น สถานที่โบราณที่มีอายุเก่าแก่ประมาณ 17,000 ปีที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในการตัดหิน ถูกสร้างขี้นเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สถานที่แห่งนี้อยู่ในประเทศโบริเวียร์ (Bolivia) ทวิปอเมริกาใต้ ประกอบด้วยโบราณสถานทีสำคัญเช่นประตูของพระอาทิตย์ซ๊่งใช้เป็นปฏฺิทินโบราณ สร้างด้วยหินเพียงก้อนเดียว ในบริเวณเดียวกันยังมีวัดและปิรามิด ซี่งวัสดุที่ใช้นั้นเป็นหินขนาดใหญ่ตัดเป็นรูปทรงที่ต้องกาแล้วนำมาวางต่อ กันได้อย่างเที่ยงตรง


(รูปภาพด้านบนถูกย่อขนาดลง คลิ๊กที่นี่เพื่อดูภาพขนาดจริง)

ภาพในมุมสูงของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้

ประตูของพระอาทิตย์ สร้างขี้นโดยมีตำแหน่งอ้างอิงกับดวงอาทิตย์และเป็นปฏิทินของคนโบราณ



ตัวอย่าง ก้อนหินที่ใต้ในการสร้างนี้มีรอยเส้นขนาดกว้าง 6 มิลลิเมตรลากยาวเป็นเส้นตรง Source: Jean-Pierre Protzen & Stella E.Nair, “On Reconstructing Tiwanaku Architecture”, Jpurnal of ด้วยความลึกที่สม่ำเสมอมาก ซี่งเครื่องมือโบราณทั่วไปทำไม่ได้ the Society of Architectural Historians, Vol. 59, Nr.3, 2000, pp. 358-371



หลักฐานอี่นที่แสดงให้เห็นว่าประวัติศาสตร์โลกถูกบิดเบือนหรือปกปิดนั้นนำมาสรุปในวิดิโอ youtube ข้างล่างนี้


พูมาพุงคู >>> ยังหาคำอธิบายไม่ได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับพีระมิด

ต้อง ใช้เครื่องมือที่ทำจากเพชรเท่านั้น(Diamond tipped tool ) ในการตัดไดออไรด์ (Diorite) ซึ่งบางก้อนหนักเป็นร้อยตัน หินปรานีตอย่างน่ากลัว เพราะสมัยใหม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการควบคุมการตัด แถวตัดได้คมมากจนบาดได้ด้วย ที่ตั้งอยู่บนระดับเทือกเขา ชนเผ่าเร่รอนไม่มีภาษาเขียน เพาะปลูกพืชไม่ได้(มันสูงมากจนพืชใหญ่โตไม่ได้ครับ คนจะอยู่รอดได้อย่างไร) ว่ากันว่าเป็นแพะสำหรับคำอธิบายดังกล่าวในทางโบราณคดีกระแสหลัก มันน่าเชื่อมากไหมเนี่ย อายุคาดการณ์ว่ากันว่าเป็นหมื่นปี (เมโสโปเตเมียประมาณ 5000 ปีก่อน) แถมสถาปัตยกรรมคล้ายกันมากกับบนเกาะอีสเตอร์ด้วย

มี อีกที่นึงว่ามหัศจรรย์คือ เมืองที่ถูกฝังที่ตุรกี ยังขุดไม่เสร็จ อายุราวเดียวกัน 10000 ปี งานสถาปัตยกรรมล้ำหน้าแบบ civilization แถมบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ Noah Arch ด้วยครับ

ส่วนประเด็นหินใหญ่ๆเขาว่ากันว่าใช้
Acoustic Levitation การยกขึ้นด้วยเสียง
ในการช่วย (ใช้เสียกยกวัตถุทำได้ครับ)
ว่ากันว่าเป็น Alien Technology
Stone Henge ตามตำนานพ่อมดเมอร์ลินใช้ magic wand ยกขึ้นครับ



Puma Punku เป็นซากโบราณสถานในประเทศโบลิเวีย ชื่อนี้ออกจะไม่เป็นที่คุ้นเคยของคนในวงการอื่นนอกเสียจากนักโบราณคดี หรือนักจานผีวิทยา(UFOlogist) เท่านั้น คิดกันบ้างไหมว่าทำไมซากโบราณสถานดังกล่าวถึงได้ดึงดูดใจคนสองกลุ่ม ที่ดูเหมือนอยู่กันคนละขั้วนี้ให้มาสนใจสิ่งเดียวกันได้

โบราณสถาน ที่ว่าอยู่เยื้องออกไปทางซ้ายของพูมาปันกูปิระมิดในเขตเมืองโบรา ณเทียฮัวนาโค ใกล้กับทะเลสาปติติคาคา บริเวณนั้นเชื่อกันว่าคือแหล่งอารยธรรมของชนพื้นเมืองก่อนหน้าชาวอินคา นักโบราณคดีให้ข้อสรุปว่าพูมา ปันกูเป็นวิหารหรืออะไรทำนองนั้นที่สะท้อนถึงการบูชาเทพเจ้าแห่งการสร้าง สรรค์ของอินคานามเทพวิราโคชา น่าเสียดายที่ไม่มีหลักฐานใดๆสนับสนุนแนวคิดนี้แม้เพียงกระผีกริ้น



ชน พื้นเมืองโบราณจะสร้างที่แห่งนี้ให้กับใครก็พูดยากเพราะไม่มีหลักฐานเหลือ ให้เห็น ส่วนหลักฐานที่พอจะมีให้เห็นก็ทำให้เกิดคำถามตามมาเหมือนกันว่าคนโบราณสร้าง สิ่งนี้ขึ้นมาได้อย่างไร?


เทียบ ง่ายๆครับ หินที่ใช้สร้างโบราณสถานมีน้ำหนักเฉลี่ยมากกว่า 200 ตัน บางก้อนหนักถึง 450 ตัน ชาวอินคา(หรือใครก็ตามที่สร้างมัน)เอาหินขึ้นมาบนที่สูงกว่า 13,000 ฟุตกันได้ยังไง สโตนเฮนจ์ยังพออธิบายวิธีการขนหินได้ว่าใช้ไม้เป็นหมอนรอง + ต่อแพล่องมาตามทะเลสาปที่ยาวเหยียด ส่วนภูเขาสูงที่เป็นทำเลของเทียฮัวนาโคนี่ล่ะครับ จะเอาหินขึ้นมายังไง

คำ ถามที่สำคัญที่สุดเห็นจะอยู่ที่ อารยธรรมอินคาไม่เคยมีการประดิษฐ์ล้อเลื่อน เพราะงั้นเครื่องทุ่นแรงประเภทไหนที่พวกเขาใช้ขนของหนักๆกัน เป็นไปได้อย่างไรว่าชนชาติที่สร้างสิ่งก่อสร้างสุดอลังการจนนับเป็นสุดยอด สิ่งมหัศจรรย์ของโลกได้นี้ ไม่เคยคิดอุปกรณ์ง่ายๆที่คนโบราณชาติไหนเค้าก็คิดกันได้อย่างล้อและเพลา

ถ้า จะบอกว่าล้อเลื่อนสะดวกสำหรับพื้นราบ ทานโทษเถอะครับ การขนหินหนักหลายร้อยตันขึ้นภูเขาเนี่ย พวกเขาเอาอะไรขนกันไม่ทราบ สร้างกันในป่าที่เป็นที่ราบง่ายกว่าไหม อเมริกาใต้มีที่แบบนี้ออกจะเยอะแยะ

โอ เคครับ จะมียักษ์มาช่วยแบกก็ไม่ว่ากัน แต่พอเอาขึ้นมาบนที่ราบยอดเขาได้ พวกเขาเอาอะไรตัดหินกันแน่ และตัดทำนองไหนถึงได้มีเหลี่ยมมุมที่แม่นยำชนิดลงล็อกกันพอดีอย่างกับเกม Tetris ทั้งมุม ฉาก และพื้นตัด ก้อนละหลายร้อยตันนะครับ ไม่ใช่ก้อนเล็กๆอย่างอิฐบล็อค



(รูปภาพด้านบนถูกย่อขนาดลง คลิ๊กที่นี่เพื่อดูภาพขนาดจริง)



ภาพแปลนการก่อสร้าง ที่แสดงให้เห็นถึงความประณีต และการออกแบบมาอย่างดี


(รูปภาพด้านบนถูกย่อขนาดลง คลิ๊กที่นี่เพื่อดูภาพขนาดจริง)

นอก จากการตัดและขัดผิวหินแกรนิตที่ประณีตแล้ว รอยตัดก็ชวนฉงนว่าอินคาโบราณเค้าเอาอะไรตัด ลองดูรูปเล็กๆด้านล่างนี้ครับ แสดงให้เห็นรอยกรีดลงไปในหินที่กินระยะไม่เกิน 1 cm นั่นคือรอยขวานหินอย่างที่คนโบราณใช้ หรือตัดด้วยเครื่องมือประเภท ไหนกัน


ดูรูเล็กๆพวกนั้นซิ



นัก จานผีวิทยาเชื่อว่าโบราณสถานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยการนำของพระเจ้าจากอวกาศ ซึ่งด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบพวกเขาสร้างมันไม่เสร็จและทิ้งเอาไว้ให้ประจักษ์ แบบนี้ อีกคำอธิบายหนึ่งกล่าวว่า โบราณสถานแห่งนี้อาจเป็นต้นแบบการก่อสร้าง ที่พระเจ้าจากอวกาศทรงประทานเพื่อสอนวิธีปลูกสร้างโบราณสถานแก่อารยธรรมก่อน อินคาก็เป็นได้

นักโบราณคดีและนักวิทยาศาสตร์ต่างพากันเย้ยหยันแนว คิดนี้ ถึงอย่างนั้นคนกลุ่มดังกล่าวก็ไม่มีปัญญาจะอธิบายอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ได้ เช่นกันว่า Puma Punku ถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร



ที่มา http://www.world-mysteries.com/mpl_6.htm ปิรามิดกีซ่ากับความเชื่อมโยงกับดวงดาว
http://www.kolumbus.fi/lea.tedder/OKAD/sky2475.htm ข้อมูลทางคณิตศาสตร์เกี่ยวกับปิรามิด
http://www.timstouse.com/EarthHistory/Egypt/GreatPyramid/interestingfacts.htm World Mysteries - Mystic Places - TIWANAKU / Tiahuanaco.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Search for content in this blog.